บทความ

สงครามเย็นในอารยธรรมปัจจุบัน

รูปภาพ
      สงครามเย็น เป็นหนึ่งในสงครามที่สำคัญที่ถูกบันทึกไว้หน้าประวัติศาสตร์โลก แม้ว่าสงครามเย็นจะเกิดจากความขัดแย้งอุดมการณ์ทางการเมือง แต่ก็ได้ลุกลามและแผ่ขยายสร้างความตึงเครียดไปทั่วโลก เป็นการต่อสู้กันระหว่างกลุ่มประเทศ 2 กลุ่มที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองและระบอบทางการเมืองต่างกัน ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2       โดยประเทศทั้งสองฝ่ายจะไม่ทำสงครามกันโดยตรงแต่จะสร้างแสนยานุภาพทางทหารไว้ข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม และสนับสนุนให้ประเทศพันธมิตรของตนเข้าทำสงครามแทน เหตุผลที่เรียกว่าสงครามเย็นเนื่องจาก เป็นการต่อสู้กันระหว่างมหาอำนาจ โดยใช้จิตวิทยาไม่ได้นำพาไปสู่การต่อสู้ด้วยกำลังทหารโดยตรง  ที่มา :  https://sites.google.com/site/phanuwatt5612/3-khwam-khad-yaeng-ni-khrist-stwrrs-thi-20-cnthung-paccuban/3-2-sngkhram-yen      สาเหตุของสงครามเย็น มาจากความขัดแย้งอุดมการณ์ทางการเมืองของประเทศมหาอำนาจทั้งสองที่ยึดถือเป็นแนวทางในการดำเนินนโยบายต่างประเทศและความขัดแย้งทางด้านผลประโยชน์ และเขตอิทธิพลเพื่อครองความเป็นผู้นำโลกโดยแสวงหาผลประโยชน์จากประเทศต่างๆ  ที่มา :  https://guru.sanook.com/7269/

สงครามครูเสด (Crusades) ในสมัยอารยธรรมสมัยกลาง

รูปภาพ
      สงครามครูเสด คือสงครามระหว่างศาสนา ซึ่งอาจหมายถึงสงครามระหว่างชาวคริสต์ที่ต่างนิกายด้วยกันเอง หรือชาวคริสต์กับผู้ที่นับถือศาสนาอื่น แต่ส่วนใหญ่มักหมายถึงสงครามครั้งใหญ่ระหว่างชาวมุสลิมและชาวคริสต์ ในช่วงศตวรรษที่ 11 - 13  ที่มา :  https://images.app.goo.gl/5daUcgtQjRsAV8kJ      สงครามครูเสด เป็นสงครามระหว่างชาวคริสต์จากยุโรปและชาวมุสลิม เนื่องจากชาวคริสต์ต้องการยึดครองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และเมืองคอนสแตนติโนเปิลหรือเมืองอิสตัลบลู ประเทศตุรกีในปัจจุบัน ในตอนเริ่มสงครามนั้นชาวมุสลิมปกครองดินแดนศักดิ์สิทธิ์อยู่ ดินแดนแห่งนี้เป็นที่สำคัญของ 3 ศาสนา ได้แก่ อิสลาม ยูได และคริสต์ ในปัจจุบันดินแดนแห่งนี้คือประเทศอิสราเอล หรือปาเลสไตน์ ชาวมุสลิมครอบครองเมืองนาซาเรธ เบธเลเฮม และเมืองสำคัญทางศาสนาอีกหลายเมือง       สงครามครูเสดถือเป็นสงครามทางศาสนาครั้งสำคัญและยาวนานที่สุดของโลก (200 ปี) ระหว่างกลุ่มประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์ และกลุ่มที่นับถือศาสนาอิสลาม      สงครามครูเสดครั้งที่ 1 (1095-1101) เริ่มต้นด้วยปี 1095 โดยพระสันตะปาปาเออร์วันที่ 2 แห่งกรุงโรม รวบรวมกองทัพชาวคริสต์ไปยังกรุงเยรูซาเลม

สภาพสังคมในอารยธรรมอินเดีย

รูปภาพ
      อินเดีย เป็นสังคมที่มีความหลากหลาย ด้านเชื้อชาติ ภาษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยมีศาสนา วรรณะ และภาษาเป็นตัวกำหนดรูปแบบสังคมและการเมือง การจัดลำดับชนชั้นทางสังคมและอาชีพในอินเดีย เป็นการสะท้อนอิทธิพลของระบบวรรณะ      ระบบวรรณะเกิดจากพวก อริยะ หรือ อารยัน ซึ่งเข้ามารุกรานคนพื้นเมืองในอินเดีย ทำสงครามกับพวก มิลักขะ จนได้ชัยชนะ และพวกมิลักขะได้ถอยร่นลงไปทางตอนใต้ พวกอริยะจึงใช้ศาสนาพราหมณ์ในการแบ่งชนชั้นวรรณะ โดยถือว่าวรรณะทั้ง 4 เกิดจากอวัยวะของพระพรหมที่ต่างกัน       ระบบวรรณะ ตั้งแต่โบราณที่สำคัญมี 4 วรรณะ  1. วรรณะพราหมณ์ ได้แก่ นักบวช เกิดจากโอษฐ์พระพรหม มีสีเครื่องแต่งกายประจำวรรณะคือสีขาว ซึ่งแสดงถึงความบริสุทธิ์ มีหน้าที่กล่าวมนต์ ให้คำปรึกษาพระเจ้าแผ่นดิน และสอนให้แก่คนทั่วไป ส่วนพวกที่เป็นนักบวชมีหน้าที่สอนไตรเภทและประกอบพิธีการทางศาสนา ปัจจุบันนักบวชอาจหมายถึง นักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ และนักการเมือง ที่มา :  https://sites.google.com/site/charinrut45768/watthanatumindei/rabobwanna 2. วรรณะกษัตริย์ ได้แก่ นักรบ เกิดจากพระอุระของพระพรหม และสืบเชื้อสายมาจากพระอาทิตย์ สีเครื่องแต่

สภาพสังคมในอารยธรรมโรมัน

รูปภาพ
      อารยธรรมโรมันเกิดจากบริเวณคาบสมุทรอิตาลี ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทวีปยุโรป โดยมีลักษณะเป็นแหลมยื่นลงไปในทะเลมัลดิเตอร์เรเนียนเรียกว่า “แหลมอิตาลี” พวกแรกที่เข้ามาในอารยธรรมโรมัน คือพวก "อีทรัสกัน" เดิมมีถิ่นฐานอยู่ในเอเชียไมเนอร์ และเมื่อเข้ามาในแหลมอิตาลีได้นำเอาความเชื่อและวัฒนธรรมต่างๆเข้ามาเผยแพร่  ที่มา : https://sites.google.com/site/chattarikajomfoo/xarythrrm-roman/3-thi-tang-laea-laksna-phumiprathes            สภาพสังคมของชาวโรมัน ผู้ชายเป็นหัวหน้าครอบครัวมีสิทธิออกเสียงและต้องเข้าเป็นทหาร แต่จะไม่ได้รับตำแหน่งใดๆจนกว่าจะครบ 10 ปี ถึงจะได้ตำแหน่ง ส่วนผู้หญิงต้องรับผิดชอบงานบ้านและดูแลลูก ไม่มีสิทธิออกเสียงหรือทำงานนอกบ้าน ชนชั้นของอารยธรรมโรมันในยุคสาธารณะรัฐและจักรวรรดิ แบ่งออกเป็นดังนี้      1. ชนชั้นขุนนาง ( Patrician) คือพวกชนชั้นสูง กลุ่มผู้ดีมีสกุล มีความมั่งคั่งร่ำรวย มีอำนาจในการปกครองสาธารณะรัฐ มีสิทธิออกเสียง สามารถเข้ารับราชการได้ แต่ไม่สามารถแต่งงานกับคนกลุ่มอื่นได้ เพราะต้องรักษาอำนาจด้วยการสืบสายโลหิตกับพวกขุนนางด้วยกัน ที่มา : https://www.timetoas

สภาพสังคมในอารยธรรมอียิปต์

รูปภาพ
           อียิปต์เป็นหนึ่งในอารยธรรมที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของของทวีปแอฟริกา มีพื้นที่ตั้งแต่ตอนกลางจนถึงปากแม่น้ำไนล์ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของประเทศอียิปต์ อารยธรรมอียิปต์เริ่มขึ้นเมื่อ 3150 ปีก่อนคริสต์ศักราช โดยการรวมอำนาจทางการเมืองของฟาโรห์           ในสังคมเกือบทุกสังคมมีการแบ่งชนชั้นทางสังคมทั้งสิ้น ซึ่งการแบ่งชนชั้นมีมานานมากกว่า 5000 ปี ในสมัยอารยธรรมอียิปต์ก็มีการแบ่งชนชั้นผู้คนในสังคมเป็นชนชั้นต่างๆอย่างชัดเจนแต่ละชนชั้นก็มีบทบาทและหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป            ในสมัยอียิปต์นั้น เริ่มปรากฎชัดเจนเมื่ออียิปต์รวมกันเป็นราชอาณาจักร สังคมอียิปต์ได้แบ่งชนชั้นเป็นชั้นต่างๆเปรียบกับรูปสามเหลี่ยม สามารถจัดแบ่งได้ 4 ชนชั้น คือชนชั้นสูง ชนชั้นกลาง ชนชั้นต่ำ ชนชั้นต่ำสุด ที่มา : https://chawalit069.wordpress.com/2015/03/09/สังคมของอารยธรรมอียิปต-2/           กษัตริย์ (Pharaoh) และราชวงศ์กำหนดให้อยู่ในตำแหน่งสูงสุด กษัตริย์สามารถมีพระมเหสีหรือสนมได้หลายคน อาจเป็นพี่สาวน้องสาวร่วมบิดามารดาเดียวกัน เนื่องจากต้องรักษาสายเลือดาที่บริสุทธิ์ไว้ มีหน้าที่เป็นผู้

The world civilization

รูปภาพ
 เว็บบล็อกนี้เกี่ยวกับอารยธรรมโลก มีเนื้อหาตั้งแต่สมัยโบราญจนถึงปัจจุบัน อารยธรรมเหล่านี้ล้วนมีมนต์เสน่ห์ชักชวนให้ติดตามได้เสมอ ข้อมูลในนี้ให้สาระความรู้เพิ่มเติมเท่านั้น ไม่เหมาะสำหรับการนำไปอ้างอิง